“ศีลเสมอกัน จึงคบกันยืนยาว”
คบคนเเบบไหน ก็เป็นคนเเบบนั้น เพราะผึ้งก็ไม่เคยชวนเเมลงวันไปตอมดอกไม้
เเมลงวันก็ไม่เคยไปกินน้ำหวานในดอกไม้กับผึ้ง
ถ้าคุณอยู่กับ “คนใจกว้าง” คุณจะมี “สังคมที่กว้างมากยิ่งขึ้น”
ถ้าคุณอยู่กับ “นักปราชญ์” คุณจะมี “ความรู้มากยิ่งขึ้น”
ถ้าคุณอยู่กับ “คนบุญ” คุณจะเกิด “จิตเมตตามากยิ่งขึ้น”
ถ้าคุณอยู่กับ “คนกล้าหาญ” คุณจะ “เเข็งเเกร่งมากยิ่งขึ้น”
ถ้าคุณอยู่กับ “คนมองโลกในเเง่ดี” คุณจะ “มีความสุขมากยิ่งขึ้น”
ถ้า “ศีล” ไม่เสมอกัน ก็อยู่ร่วมกันไม่ได้
ต้องพวกเดียวกัน คุยเรื่องเดียวกัน ถึงอยู่กันได้ คนเเบบเดียวกันดึงดูดพวกเดียวกัน
ชอบเเว้น เขาก็ไปจับกลุ่มซิ่งรถ
ชอบเข้าวัด ก็ชวนกันไปนุ่งขาวห่มขาว ปฎิบัติธรรม
ทำเรื่องที่ชอบเหมือนกัน คุยเรื่องที่ชอบเหมือนกัน
เราสนิทชิดเชื้อกับคนเเบบไหน นั่นเเปลว่า “เราเป็นคนเเบบนั้น”
เราคุยเราคบกับคนเเบบไหนเเล้วสบายใจ ไม่อึดอัดใจ
ให้รู้ไว้เลยเรากำลังจะกลายเป็นพวกเดียวกับเขา
เเมลงวันมันไม่ชวนกันไปกินน้ำหวาน กินเกสรดอกไม้สวยๆ หรอก
มันชวนกันไปกินเเต่ของเหม็น เน่าเสีย
พวกเดียวกันมันจะชวนกันทำในสิ่งที่มันชอบเหมือนกันคิดเหมือนกัน
ไม่มีใคร “ตักเตือน” กันได้ เพราะชอบเหมือนกัน
ถ้าอยากรู้ว่า “ใครเป็นคนเเบบไหนให้ดูคนที่เขาคุยด้วยคบด้วยสนิทด้วยก็รู้”
เพราะถ้าไม่ใช่พวกเดียวกัน “ศีลไม่เสมอกัน มันคบกันไม่ได้หรอก”
เชื่อไหมว่า “คุณคือค่าเฉลี่ยคน 5 คน ที่คุณคลุกคลี เเละใช้เวลาอยู่ร่วมด้วยมากที่สุด”
ลองมองดู 5 คนในชีวิตที่คุณใช้เวลาอยู่ด้วยมากที่สุดในเเต่ละวันซิ
คุณ “ได้รับอิทธิพล” มาจากพวกเขา ไม่มากก็น้อย
ถ้าคุณอยู่กับใคร คุณก็จะได้เป็นสิ่งนั้น อยากเป็น “ผึ้ง” หรือ “เเมลงวัน” คุณเป็นคนเลือกเอง
ต้องขอขอบพระคุณท่านเจ้าของบทความนี้ ที่ได้ให้มุมคิดดีๆ (ไม่ทราบที่มา)