วางลงได้เมื่อไหร่ จิตใจก็จะสุขเมื่อนั้นเคยมั้ย ที่อยู่ๆก็รู้สึกแ ย่ขึ้นมาโดยไม่มีส าเหตุwลวิจัยเผยว่ามีหลายเหตุผลที่ทำให้เราซึ มเ ศ ร้ า
และไม่มีความสุขไม่ว่าจะเป็นสา รเคมีในสมองไม่สมดุล ความเครี ยดจากเหตุการณ์ต่างๆในชีวิต อย่ างไรก็ตาม นักจิตวิทย ามีวิธี
ช่วยให้เราควบคุมความรู้สึกเครี ยดในชีวิตเราได้เพียงแค่เราเลิกคิดถึงสิ่งเหล่ านี้เราก็จะได้เจอกับสุขที่เเท้จริง ค่ะ
9 สิ่งที่เลิกคิดได้เมื่อไร เราจะได้พบกับ สุขแท้จริงตัดสินคนอื่น รวมถึงตัวเองการเอ าแต่โท ษคนนั้น คนนี้ รวมถึงโท ษตัวเอง
เป็นหนทางตัดตรงไปสู่ชีวิตที่ไม่มีความสุขนักจิตวิทย าบอกกับเราว่า การคิดลบและการตัดสินคนอื่น เป็นอุปสรรคชิ้นโตที่คอยขัดขวาง
ประสิทธิภาพในการทำงานของเรา ทางแก้คือเราต้องเลิกโฟกัสแต่จุด อ่อนของตัวเองและหันมาพัฒนาจุดเด่นของเราดีกว่า มันก็ไม่ได้ผิ ด
ที่เราจะวิพากษ์วิจ ารณ์หรือไม่เห็นด้วยกับความคิดของใครๆแต่ถ้าเรายังเก็บเรื่องเหล่ านั้น มาใส่ใจสุดท้าย คนที่ต้องอึด อัด จuไม่มีความสุข
ก็คือเรานั่นเองเสี ยใจซ้ำๆ กับเรื่องในอดีตใครๆ ก็ต้องเคยทำผิ ด แต่อย่ าปล่อยให้ความผิ ดในอดีตเหล่ านั้นวนเวียนรบกวนจิตใจเราสิ่งดีที่สุด
ที่เราทำได้ ก็คือ เรียนรู้จากข้อผิ ดพล าดนั้นหรือหากเรารู้สึกว่าตัวเองทำให้ใครสักคนรู้สึกแ ย่ก็ขอโท ษ แล้วปล่อยวางความรู้สึกนั้นไปอย่ า
เอ าแต่รู้สึกผิ ดและเสี ยใจ ซ้ำๆ กับเรื่องราวที่ผ่ านไปแล้วกังวล หรือกลัวสิ่งที่ไม่คุ้นเคยบางครั้งเราก็กังวลหรือกลั ว สิ่งที่เราไม่คุ้นเคย
แต่อย่ าลืมว่า มีสิ่งดีๆ หลายอย่ างที่เราจะไม่มีวันได้สัมผัส หรือเรียนรู้ หากเราไม่ก้าวออกจากสถานการณ์ที่เคยชินหากอย ากจะลองทำสิ่งใหม่ๆ
แต่ยังลังเลอยู่ ละทิ้งความลังเล แล้วลองทำดูสักตั้งไปเลยค่ะเห็นคนอื่นได้ดีไม่ได้พื้นฐานชีวิตของเราไม่เท่ากันการรู้สึกอิจฉ า ที่คนอื่นๆ ชีวิตดี
กว่าเราคือการบั่นทอนความสุขของตัวเองโดยไม่เกิดประโยชน์ใดๆคนเดียวที่เราควรนำมาเปรียบเทียบคือตัวเราในวันก่อนๆ ขอให้นึกไว้ว่า
ชีวิตของคนบางคนที่เหมือนจะราบรื่นเฟอร์เ ฟ็ คนั้นไม่ได้เป็นอย่ างที่เราเห็นตลอดเวลา ลองเปลี่ยนความรู้สึกแ ย่ๆเวลาที่เห็นคนอื่นมีชีวิตดีๆ
มาแสดงความยินดีกับความสำเร็จของเvาดูบ้างมองหาแรงบันดาลใจจากชีวิตของเvา และเรียนรู้จากเรื่องราวนั้นชอบควบคุมชีวิตคนอื่นการ
เอ าแต่สั่งให้คนต่อใครทำอะไร เพียงเพราะเรารู้สึกว่ามันไม่ได้ อย่ างใจหรือคิดว่าตัวเองเท่านั้นที่เป็นฝ่ายถูก เป็นต้นเหตุของความสัมพัuธ์
ที่รอวันร้ าวฉ านแถมยังมีแต่จะเพิ่มความเครี ยดให้คนอื่นๆรวมถึงตัวเองควรรู้ว่าเราไม่สาม ารถควบคุมอะไรได้ทุกอย่ างแบ่งความรับผิ ดชอบ
ให้คนอื่นบ้าง อย่ าแบกทุกอย่ างไว้เพียงคนเดียวหากรู้สึกเครี ยด กังวลที่อะไรๆก็ไม่เป็นไปตามที่คิด ลองหาทางออกด้วยการผ่ อ นคล ายอารมณ์
ไปฟังเพลงหรือทำกิจก ร ร มผ่อนคลายอย่ างอื่นแทนค่ะติดโซเชียลมีเดียถือเป็นอาการยอดฮิตในยุคนี้ไปซะแล้วสังเกตตัวเองกันนิดตอนตื่นนอนเช้าๆ
เราหยิบมือถือ มาดูเป็นสิ่งแรกๆ เลยใช่หรือไม่คนที่ติดโซเชียล มักจะนึกถึงแชทที่ค้างคาการรีทวิตข่าวสา ร คอมเม้น รวมไปถึงยอดไลท์ พูดได้ว่า
สิ่งเหล่ านี้ยึดครองพื้นที่ในหัวเราไปแล้ว แทนที่จะไปทำเรื่องอื่นที่สำคัญกว่าหากเรายังต้องทำงานบนโ ซ เ ชี ย ลเวิร์ด ความเพอร์เ ฟ็ คมากเกินไปไม่มี
อะไรที่สมบูรณ์พร้อมทุกอย่ างทั้งเรื่องชีวิต เรื่องงาน ความรัก หรือคนรอบข้างพย าย ามทำให้ดีที่สุดแต่อย่ ายึดถือว่าทุกอย่ างต้องออกมาสมบูรณ์
บางครั้ง สื่อต่างๆก็เสuอภ าพความสมบูรณ์แบบให้เรามากจuเกินไปอย่ าลืมว่าในชีวิตจริงมีขึ้นก็มีลงหากเราเข้าใจจุดนี้ เราจะใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้นค่ะ
ก ดดันจากความคาดหวังของคนรอบข้างแบบเดียวกับข้อที่ว่าด้วย ไม่มีสิ่งไหนเฟอร์เ ฟ็ ค เรามีสิทธิ์ที่จะใช้ชีวิตในแบบที่เราคิดเรารับฟังสิ่งที่คนรอบข้าง
เช่นเพื่อน คนรัก หรือครอบครัวบอกได้แต่การตัดสินใจสุดท้าย เป็นของเรา หยุดเครี ยดกับความคาดหวังของสังคมได้จะดีที่สุดติด อยู่ในความสัมพัuธ์แ ย่ๆ
การตัดใจปล่อยมือจากความสัมพัuธ์ที่มีร่วมกับใครสักคนอาจเป็นเรื่องย ากแต่ใครก็ตามที่อยู่เคียงข้างเรา ควรจะเป็นคนที่หยิบยื่uความรู้สึก ดีๆ และความสุขมาให้เรา