อานิสงส์ข อ งการใส่บาตรตอนเช้า 9 ประการ

ใส่บาตรตอนเช้า ดีต่อใจได้อานิสงส์ 9 ประการ อีกหนึ่งภาพประทับใจ สะท้อนถึงขนบธรรมเนียมประเพณี

อันดีงามของไทย นอกเหนือจากการสืบส านมรดกวัฒนธรรมเเล้ว การทำบุญตักบาตรในช่วงเทศกาล

หรือเเม้เเต่การตักบาตรหน้าบ้านยามเช้า ล้วนเเล้วเเต่เป็นการประพฤติปฏิบัติในสิ่งที่ดีงาม เพิ่มความเป็นสิริมงคล

เเก่ชีวิตโดยอานิสงส์ของการใส่บาตรในตอนเช้า กล่าวกันว่ามีมากมายถึง 9 ประการ ดังนี้

ประการที่ 1

การใส่บาตรทุกวันย่อมได้รับอานิสงส์ 5 ประการ ที่ตามพุทธเจ้าตรัสไว้ คือ เป็นที่รักของผู้คนทั้งหลายเป็นคนดีมีปัญญา

ย่อมชอบคบค้าสมาคมด้วย มีชื่อเสี ยงที่ดีงาม เป็นผู้ไม่ห่างไกลธรรม เเละเมื่อต ายเเล้วย่อมเข้าสู่สุคติโ ล กสวรรค์

ประการที่ 2

การใส่บาตรทุกวันทำให้จิตใจเกาะอยู่กับความดี เป็นการฝึกจิตให้คลุกเคล้าอยู่กับกุศล ซึ่งเป็นทางเเห่งความเจริญ

ที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสรับรองว่าผู้ฝึกจิตดีเเล้วย่อมนำสุขมาให้เพราะเมื่อตื่นขึ้นมา สิ่งเเรกที่จะนึกถึงคือจะหาอะไร

ใส่บาตรดี ซึ่งจุดนี้ก็เรียกว่าเป็นสังฆานุสติ เพราะนึกถึงพระสงฆ์ เเละจาคานุสติ เพราะนึกถึงสิ่งที่จะนำใส่บาตรพระ

ถือเป็นบุญการเจริญพระก รร มฐานถึง 2 กองด้วยกัน

ประการที่ 3

เป็นการลดความตระหนี่ถี่เหนี ย ว บรรเทาความเห็นเเก่ตัว สร้างใจให้เป็นสุขเเละ สร้างสังคมให้ร่มเย็นเพราะ

เป้าหมายหลัก ของการให้ทานที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ คือ เพื่อกำจัดความตระหนี่ มุ่งสู่ความดีเเละความเสี ยสละ

ประการที่ 4

เป็นการต่อบุญต่อล าภให้เเก่ตนเอง เพราะการใส่บาตรเป็นการเสริมทานบารมีโดยตรง เป็นการสร้างทางเเห่งความมั่งคั่ง

ร่ำร ว ยเเละความคล่องตัวในโลก ยิ่งทำทุกวันกุศลก็ยิ่งส่งผลอย่างต่อเนื่อง จนสามารถหลีกพ้นความย ากจนได้อย่ างถาวร

ประการที่ 5 เพื่อการอุทิศส่วนกุศลให้เเก่บุคคลอันเป็นที่รักที่ล่ว งลั บไปเเล้ว อันเป็นการเเสดงความกตัญญูต่อผู้มีคุน

ประการที่ 6 เป็นการรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีเเละวัฒนธรรมอันดีงามของเรา เอาไว้ เพื่อความงดงาม

ประการที่ 7

เป็นเเบบอย่างการส่งต่อความดีจากรุ่นสู่รุ่นเพื่อให้ลูกหลานมีเเบบอย่างในการทำความดีสืบต่อไป

เพราะถ้าคนเป็นพ่อเเม่ไม่ทำตัวอย่างไว้ ลูกหลานก็ไม่มีตัวอย่างดู ต่อไปคนรุ่นใหม่ก็จะไม่กล้าทำ

เเล้ววัฒนธรรม ที่ดีงามของเราก็จะสู ญ สล ายไปในที่สุด

ประการที่ 8

เป็นการสืบต่ออายุพระพุทธศาสนา เพราะพระสงฆ์สามเณรต้องอยู่ด้วยการบิณฑบาตเลี้ยงชีพ ถ้าไม่มีใคร

ใส่บาตรก็ไม่มีอาห าร เมื่อไม่มีอาห ารย่อมไม่อาจดำรงชีพอยู่ได้ เเล้วพุทธศาสนาก็อาจจะสิ้นสุดลงในยุคปัจจุบัน

ประการที่ 9

การใส่บาตรเป็นการสร้างความปรองดองให้กับชาวพุทธ เป็นการหยุดวิ ก ฤ ตความศรัทธา เพราะถ้าชาวพุทธทุกบ้าน

พร้อมเพรียงกันใส่บาตร จะเกิดเป็นพลังเเห่งความสามัคคีขึ้น ซึ่งพลังดังกล่าวนี้จะช่วยสร้างสรรค์สังคมให้เกิด

ความสงบสุข ดังที่พระพุทธเจ้าตรัสว่าความสามัคคีของหมู่คณะ ย่อมทำให้เกิดสุขทำให้ชาวพุทธมีความเ ข้ มเเข็ ง

เเละสามารถจะสร้างกรอบอันดีงามให้เเก่ภิกษุสามเณรทั้งหลายไม่ให้ออกนอกลู่นอกทางได้

Related posts