แม้จะเกิดมาในครอบครัวที่ต้นทุuไม่เท่าคนอื่นและโตมากับชีวิ ตที่vาดพ่อพร้อมกับภาระก้อนโตของบ้าน
แต่นั้นกลับไม่ใช่สิ่งที่ผู้หญิง รฐา โพธิ์งาม หรือ ญ าญ่ าหญิง เก็บมาคิดให้น้อยเ นื้ อต่ำใจในโ ช ค ชะต า
ญ าญ่ าหญิง เกิดและโตมาในยุคที่คุณแม่ น้อย โพธิ์งาม มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักและต้องทำงานเป็นหลัก
จำได้ว่าตอนที่เช่าบ้าน พอแบบฝนต กหลังค ารั่ วเราก็สั มผั สมาหมดแล้ว วันนี้ก็ซื้ อบ้านให้แม่ แม่ก็จะพูดตลอด
ดีใจเนอะแม่ไม่ต้องมานั่งอุ ดหลังค าฝนต กหน้าฝน ทุกหน้าฝนแม่ก็จะพูดคำนี้ จำได้ไหมหญิงตอนนั้น
เราเช่ าบ้านอยู่ที่บ้านหลังค ารั่ วมีฝนต กลงมารั่ วๆ ก็มีแต่เหรียญแม่เก็บเหรียญไว้
ชีวิ ตวันนี้เรามานั่งมองตัวเอง ชีวิ ตเรามันขนาดนั้นเลยเหรอ
เราเลยใช้ชีวิ ตแบบระวั ง เพราะว่าเราเคยอยู่จุดนั้นมาแล้ว คนที่ไม่เคยอยู่จุดนั้นไม่มีทางเข้าใจ
เราเคยอยู่ตรงนั้นเราเข้าใจคุณค่ าของมันกว่าแม่จะตำส้มตำได้มาครกละสี่สิบ
เลยทำให้เราเห็นคุณค่ าของมัน วันนี้เราทำงานได้มากขึ้นได้มามากขึ้นก็จริง
แต่ถ้าเราใช้ชีวิ ตแบบประ ม าทเหมือนเดิมเราก็มีสิ ทธิที่จะกลับไปตรงนั้นเหมือนกัน
ความกตั ญญูมันมีทุกคน แต่หญิงอาจจะอยู่ในจุดที่คนเห็นแล้วจำได้มากกว่า จริงๆ คนกตั ญญูกว่าหญิงมีอีกเยอะ
คนที่โอกาสน้อยกว่าหญิง เอาง่ายๆ เลยเราแค่มีโอกาสมากกว่าเขา ดังนั้นยิ่งมีโอกาสมากก็ยิ่งรักษ าไว้ให้ดี หญิงมองอย่ างนั้น
แต่บางทีคำพูดว่ากตั ญญูกับหญิงมันเป็นเรื่องที่ทำให้หญิงก ดดั นเหมือนกันนะ เพราะรู้สึกว่าเราจะทำไม่ได้บ้างได้ไหม
ซึ่งหญิงก็เป็นคนเป็นม นุ ษย์ หญิงแค่รู้สึกว่าบางทีคำชื่นชมมันกลายเป็นคำที่ทำให้เราต้องตีกรอบตัวเองเหมือนกัน
แต่ว่าช่างมันเถอะยังไงมันก็เป็นคำชื่นชมที่ดี ถ้าเกิดเป็นคำไม่ดีขึ้นมาเราก็ต้องเ ค รี ย ด
แต่อันนี้เป็นคำชื่นชมที่ดี หญิงก็ไม่ได้เ ค รี ย ดอะไรค่ะ